อินเดีย...ที่พักใจ ๓

 
kanchana.c
วันที่  8 ต.ค. 2554
หมายเลข  19867
อ่าน  1,935

น้ำท่วมใจ

อีกไม่กี่วัน ก็จะถึงเวลาเดินทางไปอินเดียแล้ว ตอนนี้มีสหายธรรมที่แม้ไม่ได้ร่วม

เดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถานในครั้งนี้ แต่ก็ได้ร่วมเจริญกุศลด้วยหลายท่าน พี่

วีณา พจน์ประสาทที่ป่วยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ก็จัดเตรียมของใช้จำเป็นสำหรับ

พระภิกษุไปถวายที่อินเดียเป็นร้อยๆ ชุด ผู้นำกระเป๋าใส่เสื้อผ้าใบเล็กมาแจกให้ผู้เดินทาง

และเด็กๆ ที่อินเดียด้วย ผู้ฝากโคมประทีปไปถวายหลายท่าน แม้ว่าจะมีผู้บริจาคแล้วก็

ตาม ศรัทธาที่หลั่งไหลมาไม่ขาดสายดุจสายน้ำนี้ทำให้เกิดอนุโมทนาจิต ใจชุ่มชื่น

เบิกบานด้วยปีติเพราะเห็นคุณของกุศลว่า นำมาซึ่งความสุขแม้ขณะที่เป็นกุศลนั้นเอง

ไม่ต้องรอถึงเวลาให้ผลที่ดีเลย

แต่วันนี้ (เสาร์ที่ ๘ ต.ค. ๕๔) ก็ถูกน้ำ คือ กิเลสท่วมใจ เพราะบ้านแม่ที่อยุธยา

ที่เคยอยู่มาแต่เล็กแต่น้อยนั้น น้ำท่วมสูงกว่าที่เคยเห็นมาในชีวิตของแม่และของใครๆ

ที่ยังมีชีวิตอยู่ จนถึงขั้นที่เรียกว่า วิกฤต และบ้านตัวเองในกรุงเทพฯที่อยู่ปัจจุบันนี้ ก็

กำลังตกอยู่ในอันตรายว่าจะถูกน้ำท่วมเช่นกัน เพราะปลูกมานานเกือบ ๔๐ ปี จึงต่ำ

กว่าถนนที่ทำสูงขึ้นเรื่อยๆ เกือบเมตร เกิดความเดือดร้อนใจมาก กลัวทรัพย์สินที่จริงๆ

ก็ไม่มีอะไรมากนั้นจะเสียหาย เกิดลังเลใจว่า ควรจะไปอินเดียดี หรือจะยกเลิกเพื่อเฝ้า

บ้าน รักษาทรัพย์สินนี้ดี เห็นเลยว่า ความรู้สึกนี้ตรงกันข้ามกับปีติที่เกิดจากการอนุโมทนาบุญของผู้อื่นอย่างสิ้นเชิง แล้วจะเลือกอย่างไหนดี ถึงอยู่เฝ้าบ้าน ถ้าน้ำจะ

ท่วมเราก็คงทำอะไรไม่ได้ นึกถึงข้อความในพระไตรปิฎกที่ว่า “โลกมนุษย์เป็นที่ดูบุญ

และบาป และผลของบุญและบาป”

ความจริงก็ไม่มีใคร ไม่มีเรา ไม่มีบ้านของเรา รถยนต์ของเรา ทรัพย์สินเงินทอง

ของเรา มีแต่จิต เจตสิก รูปที่เกิดปรากฏทำกิจหน้าที่ของตนเท่านั้น ถ้าเหตุที่ได้ทำไว้

แล้วเป็นอกุศล ก็ต้องได้รับผลเป็นอกุศลวิบากในรูปของภัยต่างๆ อยู่ดี จะหนีไปไหนพ้น

นึกขึ้นได้อีกข้อความหนึ่งว่า “คนเขลาย่อมเดือดร้อนอยู่ว่า ทรัพย์ทั้งหลายของเรามีอยู่

บุตรทั้งหลายของเรามีอยู่ ตนย่อมไม่มีแก่ตน ทรัพย์และบุตรจะมีแต่ที่ไหน” ใช่เลย ก็

ตนก็ไม่มีแก่ตน บ้าน รถ และทรัพย์สินอื่นๆ จะมีแต่ที่ไหน

นึกถึงกาลีอุบาสิกาที่ไปฟังธรรม และคนใช้ที่บ้านมาบอกว่าโจรปล้นบ้าน ให้

กลับไปดู ท่านก็ไล่คนใช้ให้กลับไป และนั่งฟังธรรมต่อจนจบ ท่านมีศรัทธาในการ

ฟังธรรม โดยไม่ได้หวั่นไหวเลย แต่เราน้ำก็ยังไม่ท่วม ถึงท่วมก็ทำอะไรไม่ได้ ใช่ว่า

อยู่เฝ้าบ้านแล้ว น้ำจะไม่ท่วม ถ้าเป็นอย่างนั้นก็น่าจะอยู่หรอก จะได้ช่วยชาวบ้าน

อื่นๆ ด้วย แต่จริงๆ น้ำกิเลสท่วมใจแล้วต่างหาก

เห็นคุณของของการศึกษาพระธรรมว่า เมื่อศึกษาเข้าใจแล้ว ก็สามารถเป็นที่

พึ่งได้อย่างนี้เอง คือ ทำให้น้ำ คือ กิเลสที่ท่วมใจนั้นลดลงอย่างรวดเร็ว ขนาดที่เข้าใจ

เพียงขั้นเรื่องราว ยังไม่ถึงขั้นประจักษ์แจ้งก็ยังทำให้เห็นทางแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่าง

สรุปแล้วก็เดินหน้าไปนมัสการสังเวชนียสถานที่อินเดีย โดยไม่ต้องห่วงกังวลกับ

อะไรอีก เพราะขณะที่เป็นกุศลจิตนั้นเกิดได้ยาก โอกาสที่จะได้ไปนมัสการสถานที่

พระองค์ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และปรินิพพานนั้นก็ไม่ได้เกิดได้โดยง่ายเลย

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง

ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง

สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง

ตลอดไปจนถึงสิ้นสุดแห่งสังสารวัฏ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 8 ต.ค. 2554

ขออนุโมทนาในกุศลศรัธาของท่าน

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 8 ต.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nong
วันที่ 8 ต.ค. 2554

น้ำท่วมกาย (บ้านช่องและทรัพย์สิน) ยังภัยพิบัติให้ได้ไม่เท่ากิเลสท่วมใจ...

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
bsomsuda
วันที่ 8 ต.ค. 2554

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่แดงค่่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 8 ต.ค. 2554

ขออนุโมทนาอาจารย์กาญจนา ที่ไม่ทอดทิ้งศรัทธาซึ่งเป็นอริยทรัพย์ค่ะ เพราะทรัพย์

ในทางโลก ถ้าไม่เสื่อมสลายไป ก็ต้องตายจากกันวันใดวันหนึ่ง ส่วนการได้ไปนมัสการ

สังเวชนียสถานนั้น เป็นโอกาสของการเจริญกุศลอีกครั้งหนึ่งในสังสารวัฏฏ์ ที่ไม่ได้

เกิดขึ้นบ่อยนัก

ป.ล. เนื้อหากระทู้อาจารย์เขียนได้ดีทุกตอน น่าจะรวมเล่มนะคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
aditap
วันที่ 8 ต.ค. 2554

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
j.jim
วันที่ 8 ต.ค. 2554

อาจหาญและร่าเริงนะคะขออนุโมทนาในกุศลจิต

ขออนุโมทนานะคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
khampan.a
วันที่ 8 ต.ค. 2554

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของอาจารย์กาญจนาและทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
pat_jesty
วันที่ 8 ต.ค. 2554

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 9 ต.ค. 2554

“...คนเขลาย่อมเดือดร้อนอยู่ว่า ทรัพย์ทั้งหลายของเรามีอยู่

บุตรทั้งหลายของเรามีอยู่ ตนย่อมไม่มีแก่ตน ทรัพย์และบุตรจะมีแต่ที่ไหน...”

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่แดงด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
choonj
วันที่ 10 ต.ค. 2554

ขอแสดงความคิดเห็นโดยส่วยตัวเลยที่เดียว ความเห็นถ้าเป็นไปทางเดียวกัน ปัญญาก็

ไม่เกิด แต่ข้อยุติต่างหากที่จะให้เกิดปัญญา วันนี้น้ำที่อยุธยากำลังจะเข้ากรุงเทพฯ เป็น

ตัวเลขเพื่อให้เข้าใจโดยประมาน ๔,๐๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นการท่วมครั้งใหญ่ใน

ประวัตการณ์ จนกล่าวได้ว่าอยุธยาแตกแล้วเป็นครั้งที่สามเพราะน้ำ จะเห็นได้ว่าคน

อพยพออกจากอยุธยาเพราะสู้แรงน้ำไม่ไหว แล้วยังมีน้ำอีก ๘,๐๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร

กำลังจะตามลงมา ยังมีน้ำฝนและน้ำทะเลหนุนอีก โชคยังดีที่มีข้อบอกมูลว่า ฝนน่าจะไม่

ตกอีกแล้วในภาคเหนือและต้นภาคกลาง แต่ต้นภาคใต้ลงไปยังมีฝนอีกมากเพราะเป็น

ไปตามฤดูกาล การอยู่ลอดของคนกรุงเทพขณะนี้ก็อยู่ที่การระบายน้ำออกสู่ทะเลและน้ำ

ทะเลหนุน ถ้าโชคไม่ดีมีฝนตกหนักและน้ำทะเลหนุนด้วยกรุงเทพก็อาจแตกเหมือน

อยุธยา สงสัยเหมือนกันว่ากาลีอุบาสิกา ไม่สนใจโจรที่มาปล้นบ้าน ความเข้าใจในธรรม

ย่อมต้องมีจนใกล้อริยะบุคคล แล้วเราละ การฟังธรรมย่อมต้องดีแน่นอนเพราะจะนำมา

ซื่งปัญญานี้ไม่ต้องสงสัย แต่ปัญญาไม่ใช่จะเกิดขึ้นได้โดยเร็ว เป็นพืชที่โตช้า พระสารี

บุตรหนึงอสงไขย์แสยกัปป์ แล้วอินเดียก็ยังอยู่ไม่หายไปไหน พร้อมเมื่อไรก็ไปได้ ...ฯ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 10 ต.ค. 2554

ที่แรกเกรงว่าจะไม่ได้ไปอินเดียเพราะภัยจากสุขภาพ..เลยรู้ว่าความคิดที่เป็นกิเลสที่ท่วมแบบไม่มีลดนานนับสัปดาห์....รู้แล้วว่าที่สะสมปัญญายังไม่พอคะคงต้องสะสมอีกเยอะสอดคล้องกับข้อความในฐานสูตร..ที่ว่า..บุคคลพึงรู้กำลัง [ญาณ]

ได้ก็ในคราวมีอันตราย..


กำลังใจพึงรู้ได้ในอันตราย [ฐานสูตร] ............................ ข่าวน้ำท่วมที่อยุธยา..นึกถึงพี่แดงทุกที่....ขออนุโมทนาข้อความที่พี่แดงนำมาลงทำให้เห็นค่าการสะสมปัญญาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
guy
วันที่ 11 ต.ค. 2554

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
orawan.c
วันที่ 14 ต.ค. 2554

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
เซจาน้อย
วันที่ 11 พ.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
ING
วันที่ 11 พ.ย. 2554

ขออนุโมทนาและขอบพระคุณอย่างยิ่งค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ