เตรียมตัวตายอย่างไร

 
เมตตา
วันที่  13 ส.ค. 2554
หมายเลข  18930
อ่าน  1,635

ความตายไม่ได้เกรงใจใครเลยว่าผู้นี้เป็นพระราชา เป็นมหาเศรษฐี หรือเป็นยาจก ... ทุกคนต้องตายแน่ๆ ไม่ช้าก็เร็ว ความตายเป็นผลของกรรมเป็นวิบากจิต ไม่มีใครรู้ว่า ผลของกรรมหนึ่งในอดีต จะให้ผลคือความตายเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ไม่มีใครเตรียมตัวได้ เลยว่าจะตายเมื่อไหร่ ที่ไหน ถ้าจะเตรียมตัว ต้องเตรียมเดี๋ยวนี้คือ สะสมความเห็นถูก ในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ จึงต้องไม่ประมาทในการฟังพระธรรมค่อยๆ สะสมความ เห็นถูกเข้าใจถูกในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อสักวันหนึ่งเมื่อจากโลกนี้พร้อมด้วยความเข้า ใจความจริง ไม่ใช่จากไปด้วยความไม่รู้ จากไปด้วยความติดข้องเพลิดเพลิน

ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...

จะรอทำไมให้ถึงก่อนตาย

ขออนุโมทนาค่ะ ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nong
วันที่ 13 ส.ค. 2554

เป็นข้อเตือนใจที่ดี ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 13 ส.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 13 ส.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตา ด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 13 ส.ค. 2554
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
govit2553
วันที่ 14 ส.ค. 2554

เกิด ก็เพราะ ผลกรรม

ตาย ก็เพราะ ผลกรรม

ได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้ลิ้มรส ได้กระทบสัมผัส ก็เพราะ ผลกรรม

เกิด ชื่อว่า ปฏิสนธิจิต

ตาย ชื่อว่า จุติจิต

ได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้ลิ้มรส ได้กระทบสัมผัส เรียกว่า จักขุวิญญาณ เป็นต้น เหล่านี้ ชื่อว่า วิบากจิต คือ จิตที่เกิดขึ้นเพราะผลกรรมในอดีต

อดีต ตั้งแต่เมื่อไร มาให้ผล ... อันนี้ไม่เรียงลำดับ เป็นเรื่อง อจินไตย ความตาย จึงกำหนดไม่ได้ว่า จะมาเมื่อไร ผลกรรมให้ตาย จะมาถึงเมื่อไร

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
susook
วันที่ 14 ส.ค. 2554
แล้วแต่กรรม
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Sam
วันที่ 14 ส.ค. 2554

ความตายสามประการ

สมมติมรณะ คือ การตายจากอัตภาพนี้

ขนิกมรณะ คือ จิตที่เกิดขึ้นทำกิจแล้วดับไปทันที

สมุจเฉทมรณะ คือ การดับขันธปรินิพพานของพระอรหันต์

สมมติมรณะเป็นเรื่องของอนาคตที่แม้จะมาถึงแน่ แต่ไม่มีใครทราบว่าจะเป็น เมื่อไร ส่วนสมุจเฉทมรณะนั้นเป็นเรื่องแสนไกลที่อาจไม่มาถึงหากปราศจากปัญญา ดังนั้น จึงควรศึกษาขนิกมรณะที่กำลังมีอยู่ในขณะนี้ ว่าจิตแต่ละประเภทเกิดขึ้น ทำกิจและดับไปทันทีอย่างไร แล้วจิตขณะต่อๆ ไปเกิดขึ้นทำกิจแล้วดับไปทันทีอย่างต่อ เนื่องไม่มีหยุดอย่างไร หากเข้าใจขนิกมรณะในขณะนี้ ก็จะคลายความห่วงกังวลต่อสมมติ มรณะ เพราะการตายจากอัตภาพนี้ก็เป็นเพียงจุติจิตดวงหนึ่งที่เกิดขึ้นทำกิจแล้วดับไป อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ความเข้าใจและการประจักษ์แจ้งขนิกมรณะในขณะนี้ คือหนทางไปสู่ การดับกิเลส และสมุทเฉทมรณะได้ในที่สุดครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pat_jesty
วันที่ 14 ส.ค. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
คนไทยพบธรรม
วันที่ 15 ส.ค. 2554

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับที่แนะนำสิ่งที่ดีๆ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
สมศรี
วันที่ 15 ส.ค. 2554
ขอบคุณและอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Jans
วันที่ 15 ส.ค. 2554
ขอบคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตาคะ
 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
wirat.k
วันที่ 17 ส.ค. 2554

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 5 ก.ย. 2554
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
pamali
วันที่ 18 ธ.ค. 2554

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ