อินเดีย ...อีกแล้ว22

 
kanchana.c
วันที่  12 ธ.ค. 2552
หมายเลข  14651
อ่าน  2,905

พระคันธกุฎี

ในที่สุดก็มาถึงจุดสุดยอดของเขาคิชฌกูฏ ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระคันธกุฎีที่ประทับของ

พระผู้มีพระภาค เมื่อกราบนมัสการกุฏิท่านพระอานนท์แล้ว ก็ตั้งใจจะเข้าไปกราบที่พระ

คันธกุฎี ยังไม่ทันจะกราบ เจ้าหน้าที่ชาวอินเดียก็มาบอกให้บริจาค ด้วยความตระหนี่ที่มี

อยู่ในใจ ทำให้รู้สึกหงุดหงิดว่า ช่างหากินกับสถานที่สำคัญทุกแห่งเลยนะ แต่เมื่อก้มลง

กราบก็นึกถึงพระมหากรุณาคุณและพระบริสุทธิคุณของพระผู้มีพระภาคว่า ท่านทรงมี

เมตตากับทุกคน และไม่มีกิเลสทั้งหลายเลย อย่างความตระหนี่ที่เกิดกับเรา ก็ไม่เกิด

กับท่าน ดังนั้นการบูชาอย่างสูงสุด คือ การน้อมประพฤติปฏิบัติตามที่ทรงแสดงไว้

ดีแล้ว จึงนึกเห็นใจและบริจาค ความจริงเงินที่ได้อาจจะแบ่งเป็นส่วนที่นำไปปรับปรุง

สถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาให้ดีขึ้น เพราะไปครั้งล่าสุด ก็ดูดีกว่าครั้งก่อนมาก

เมื่อเดินลงเขา ความต้องการสละความตระหนี่ก็ยังมีอยู่ จึงแจกขอทานที่นั่งเป็น

ระเบียบอยู่ตามขั้นบันได (เมื่อมองดูแล้วว่า ไม่มากเท่าไร เงิน ๑,๐๐๐ บาท ที่แลกได้

๑,๐๐๐ รูปี คงพอแจก) ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงมีอายุ ผิวคล้ำ แต่งกายด้วยสาหรีเก่าคร่ำ

คร่า พ่อค้าที่ขายของข้างทางก็มาขอด้วย รู้สึกสบายใจเมื่อได้ให้ นั่นคือได้สละความ

ตระหนี่ออกไปได้บ้างเล็กน้อย

ระหว่างที่แจกเงินให้ขอทานตามลำดับขั้นบันไดนั้น ไม่มีใครแสดงอาการขอบคุณ มีแต่

มองไปข้างหลังว่า จะมีใครแจกอีกบ้างหรือเปล่า และมีคนหนึ่งถึงกับดึงจากมือด้วยท่า

ทางไม่เป็นมิตรเลย อดบ่นกับคนใกล้ชิดผู้มองโลกในแง่ดีไม่ได้ เขาบอกว่า ก็เขาอยาก

ได้ กลัวจะไม่ได้เหมือนคนอื่น เลยต้องแย่งเอา น่าสงสารออก ถ้าจะจริง เพราะมนุษย์

เหล่านี้อยู่ด้วยความอดอยากหิวโหยทั้งร่างกาย และจิตใจที่อยากได้อยู่ตลอดเวลา

เปรียบเหมือนมนุสเปโต มนุษย์ที่มีจิตใจเป็นเปรต คือ ไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักพอ อยากแต่จะ

ได้ ก็ร้อนด้วยไฟคือโลภะ อดคิดถึงเรื่องเปรตจริงๆ ที่มีอยู่มากมายที่เขาคิชฌกูฏที่

ท่านพระมหาโมคคัลลานะเห็นแล้วแย้มยิ้ม ทำให้ท่านลักขณะที่มากับท่านถาม และ

ท่านก็ให้ถามในสำนักของพระผู้มีพระภาค เมื่อทรงทราบก็ตรัสว่า พระองค์ก็ทรงเห็นเหมือนกัน

และเล่าอกุศลกรรมที่ทำให้คนเหล่านั้นเกิดเป็นเปรตอยู่ที่ภูเขาคิชฌกูฏนี้ ซึ่งแสดงไว้

ในพระไตรปิฎก เปตวัตถุ มีหลายเรื่องที่อ่านแล้วทำให้ระมัดระวังการใช้คำพูด

เพราะอาจมีผลทำให้คนอื่นโกรธแค้นจนทำอกุศลกรรมมากมาย เช่น เรื่องเปรตงูเหลื่อม

ที่ได้ยินท่านเศรษฐีพูดว่า คนนี้เป็นคนหากินกลางคืน เท่านั้นก็โกรธจนเผานาของ

ท่านเศรษฐี ๗ ครั้ง ตัดเท้าโค ๗ ครั้ง และอื่นๆ อีกมาก จนถึงเผาพระคันธกุฎี เพราะเป็น

ที่รักของท่านเศรษฐี เมื่อตายไปตกนรกแล้ว ก็เป็นเปรตอยู่ที่เขาคิชฌกูฏเป็นต้น และ

บัดนี้ก็คงยังอยู่ เพราะเปรตมีอายุยืนกว่ามนุษย์


ที่กรุงราชคฤห์ นอกจากจะมีเปรตที่เขาคิชฌกูฏแล้ว ยังมีเปรตญาติของพระเจ้า

พิมพิสารที่เป็นต้นเหตุให้มีการกรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศลให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว เนื่อง

จากเปรตเหล่านี้เคยทำลายไทยธรรมที่จะถวายสงฆ์ในอดีตชาติ เมื่อพ้นจากนรก ก็เกิด

เป็นเปรต อดอยากหิวโหย รอคอยว่าเมื่อญาติทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แล้ว จะมีความสุข

เมื่อพระเจ้าพิมพิสารบรรลุเป็นพระอริยบุคคลแล้ว ได้ถวายภัตตาหารแก่พระภิกษุสงฆ์

โดยมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข เปรตเหล่านี้ก็ยังไม่ได้อาหาร จึงมาแสดงตนแก่พระเจ้า

พิมพิสาร พระผู้มีพระภาคตรัสให้ท่านถวายทานอีกครั้งพร้อมกับกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล

ให้ญาติทั้งหลายของท่าน ซึ่งมีข้อความที่จับใจหลายตอน เช่น

....ในเปรตวิสัยนั้น ไม่มีกสิกรรม ไม่มีโครักขกรรม ไม่มีการค้าขายเช่นนั้น ไม่มีการซื้อ

การขายด้วยเงิน เปรตทั้งหลายผู้ไปในปิตติวิสัย ย่อมเยียวยาอัตภาพด้วยทานที่ญาติ

หรือมิตรให้แล้วแต่มนุษยโลกนี้

น้ำฝนอันตกลงในที่ดอน ย่อมไหลไปสู่ที่ลุ่ม ฉันใด ทานอันญาติหรือมิตรให้แล้วใน

มนุษยโลกนี้ ย่อมสำเร็จผลแก่เปรตทั้งหลายฉันนั้นเหมือนกัน

ห้วงน้ำใหญ่เต็มแล้ว ย่อมยังสาครให้เต็มเปี่ยมฉันใด ทานอันญาติหรือมิตรให้แล้วแต่

มนุษยโลกนี้ ย่อมสำเร็จผลแก่เปรตทั้งหลายฉันนั้นเหมือนกัน

กุลบุตรเมื่อระลึกถึงอุปการะที่ท่านทำแล้วในกาลก่อนว่า ญาติมิตรและสหายได้ให้สิ่ง

ของแก่เรา ได้ช่วยทำกิจของเรา ดังนี้ พึงให้ทักษิณาแก่เปรตทั้งหลาย

ความเศร้าโศกหรือความร่ำไรอย่างอื่น ไม่ควรทำเลย เพราะความร้องไห้เป็นต้นนั้นไม่

เป็นประโยชน์แก่เปรตทั้งหลาย ญาติทั้งหลายย่อมดำรงอยู่โดยปกติธรรมดา อัน

ทักษิณานี้แลที่ท่านเข้าไปตั้งไว้ดีแล้วในสงฆ์ให้แล้ว ย่อมสำเร็จประโยชน์แก่เปรตนั้น

โดยพลัน สิ้นกาลนาน …


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
Jans
วันที่ 13 ธ.ค. 2552

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
คุณ
วันที่ 15 ธ.ค. 2552

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
hadezz
วันที่ 16 ธ.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
วิริยะ
วันที่ 17 ธ.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
jangthi
วันที่ 20 ธ.ค. 2552

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
กระจ่าง
วันที่ 15 ต.ค. 2553
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
สายลม
วันที่ 11 มี.ค. 2554

ขอบคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
guy
วันที่ 13 มี.ค. 2554

อนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chookasem
วันที่ 2 พ.ค. 2554

อนุโมทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ