วัตรบท ๗ ของผู้จะเป็นพระอินทร์ [ปฐมเทวสูตร]

 
เจตสิก
วันที่  27 ก.ย. 2549
หมายเลข  2202
อ่าน  5,504

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 490

๑. ปฐมเทวสูตร

ว่าด้วยวัตรบท ๗

[๙๐๕] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี ในกาลครั้งนั้นแล ฯลฯ

[๙๐๖] พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพเมื่อยังเป็นมนุษย์อยู่ในกาลก่อน ได้สมาทานวัตรบท๗ ประการบริบูรณ์ เพราะเป็นผู้สมาทานวัตรบท ๗ ประการ จึงได้ถึงความเป็นท้าวสักกะ วัตรบท ๗ ประการ เป็นไฉน คือ

เราพึงเลี้ยงมารดาบิดาจนตลอดชีวิต ๑

เราพึงประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูลจนตลอดชีวิต ๑

เราพึงพูดวาจาอ่อนหวานตลอดชีวิต ๑

เราไม่พึงพูดวาจาส่อเสียดตลอดชีวิต ๑

เราพึงมีใจปราศจากความตระหนี่ อันเป็นมลทินอยู่ครองเรือน มีการบริจาคอันปล่อยแล้วมีฝ่ามืออันชุ่มยินดีในการสละ ควรแก่การขอ ยินดีในการแจกจ่ายทานตลอดชีวิต ๑
เราพึงพูดคำสัตย์ตลอดชีวิต ๑

เราไม่พึงโกรธตลอดชีวิต ถ้าแม้ความโกรธพึงเกิดขึ้นแก่เรา เราพึงกำจัดมันเสียโดยฉับพลันทีเดียว ๑

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพ เมื่อยังเป็นมนุษย์อยู่ในกาลก่อนได้สมาทานวัตรบท ๗ ประการนี้ บริบูรณ์ เพราะเป็นผู้สมาทานวัตรบท ๗ ประการ ดังนี้ จึงได้ถึงความเป็นท้าวสักกะ.

[๙๐๗] พระผู้มีภาคเจ้าผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า เทวดาชั้นดาวดึงส์ กล่าวถึงนรชน ผู้เป็นบุคคล เลี้ยงมารดาบิดามีปกติประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูล เจรจา อ่อนหวาน กล่าวคำสมานมิตรสหาย ละคำส่อเสียด ประกอบในอุบายเป็นเครื่อง กำจัดความตระหนี่ มีวาจาสัตย์ ครอบงำ ความโกรธได้ นั้นแลว่า เป็นสัปบุรุษดังนี้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
จิตและเจตสิก
วันที่ 16 ต.ค. 2560

สาธุ ขออนุโมทนา ฯ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
สิริพรรณ
วันที่ 13 ธ.ค. 2563

กราบนอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า

ขอบพระคุณยินดีในกุศลด้วยค่ะ

ศึกษาพระธรรมเพิ่มเติมคลิ๊กที่

คนที่ปฎิบัติคุณธรรมของพระอินทร์ครบบริบูรณ์ จะได้เป็นพระอินทร์หรือไม่ หรือต้องรอคิวครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 16 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ