ระลึกอีก...เนืองๆ บ่อยๆ อนุสติ คือ บ่อยๆ เนืองๆ !

 
พุทธรักษา
วันที่  30 ก.ค. 2551
หมายเลข  9419
อ่าน  2,339



ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความบางตอน

จากการถอดเทปวิทยุโดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล ท่านอาจารย์สุจินต์ ... กรุณาอธิบายไว้ว่า

คุณทรงเกียรติ "ทีนี้ ทางตา หู จมูก บางครั้งส่วนใหญ่สติเกิดแล้ว ก็เป็นเรื่องราวทั้งนั้น ปรากฏแต่ว่าเป็นเรื่องราว เห็นทีไร โดยการศึกษาแล้ว รู้ว่าขณะที่เห็นนี้จักขุวิญญาณเกิดขึ้น รู้รูปารมณ์ นั่นคือสีเท่านั้นแหละ"

อาจารย์สุจินต์ "ค่ะ เพราะฉะนั้น สติระลึกซิคะ ไม่ใช่เท่านั้นค่ะ"

คุณทรงเกียรติ "สีก็ไม่เคยปรากฏ"

อาจารย์สุจินต์ "รู้เรื่องของจักขุวิญญาณดี รู้เรื่องของรูปารมณ์ดีสามารถที่จะกล่าว เรื่องการเกิดขึ้นของจักขุวิญญาณและรูปารมณ์ได้ แต่ว่าสติไม่ได้ระลึกสักทีหนึ่ง ในขณะที่กำลังเห็น"

คุณทรงเกียรติ "ถึงระลึก ก็ไม่ปรากฏ"

อาจารย์สุจินต์ "ยังซิคะ ... ถ้าระลึกแล้วปรากฏ ทุกคนในที่นี้ก็เป็นพระอรหันต์"

คุณทรงเกียรติ "และเมื่อไม่ปรากฏแล้ว ... ปัญญาจะเจริญขึ้นได้อย่างไร?"

อาจารย์สุจินต์ "ระลึกอีก เนืองๆ บ่อยๆ ... "อนุสติ" คือบ่อยๆ เนืองๆ เป็นผู้มีปกติ อย่าลืมคำว่า ปกติ ... ระลึกเนืองๆ " จนกว่าปัญญาจะเกิดขึ้นค่ะ เมื่อปัญญาเกิดขึ้น ปัญญารู้ชัดในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ตามความเป็นจริง เพราะสภาพธรรม จะปรากฏตามความเป็นจริงต้องปรากฏต่อ ปัญญา ที่ได้อบรมเจริญแล้วเท่านั้น

แต่ถ้ายังไม่ได้อบรมเจริญสติปัฏฐานแล้ว ก็ได้ยินได้ฟัง ทรงจำกันมา สืบทอดกันมาจากอาจารย์ต่างๆ แต่ก็จะต้องรู้ว่า อาจารย์ที่ได้สืบทอดธรรมะ ที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงนั้น แสดงเรื่องของสิ่งที่มีจริง ที่กำลังปรากฏ เพื่อที่จะให้ปัญญารู้ชัด

คุณทรงเกียรติ "แต่ว่าทางกายจะรู้ง่ายกว่า ยังมีปรมัตถธรรมปรากฏบ้าง เช่น เย็น กระทบ เย็นก็ยังปรากฏ"

อาจารย์สุจินต์ "สี ในขณะนี้ ไม่ปรากฏหรือคะ.?"

คุณทรงเกียรติ "สีขณะนี้ไม่ปรากฏ"

อาจารย์สุจินต์ "ไม่ปรากฏได้ยังไงละคะ"

คุณทรงเกียรติ "ปรากฏทีไร ... เป็นวัตถุสิ่งของ เป็นตัวตนไปหมด แต่สี ไม่เคยปรากฏเลย เห็นทีไร เป็นรถยนต์ เป็นหน้าต่าง เป็นพัดลม ... ไม่เคยเห็นสี"

อาจารย์สุจินต์ "ลืมแล้วค่ะ (สี) ต้องปรากฏเสียก่อน สิ่งที่ปรากฏทางตาต้องปรากฏเสียก่อนแล้วจึงจะรู้ว่า สิ่งที่ปรากฏทางตานั้น เป็นอะไร"

คุณทรงเกียรติ "รู้โดยการศึกษา รู้โดยการฟังมา แต่สภาพธรรมตามความเป็นจริงที่ปัญญารู้ ยังไม่เคยปรากฏ"

อาจารย์สุจินต์ "เพราะฉะนั้น ที่จะไม่ใช่บุรุษเปล่า คือเริ่มระลึกรู้ (เช่น) ทางตา ... ว่าเป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏ จนกว่าจะรู้ชัด มีประการเดียวค่ะ เริ่มระลึกเนืองๆ บ่อยๆ จนกว่าจะรู้ชัด" ท่านผู้ฟังซาบซึ้งในคำอุปมาที่ว่า "จับด้ามมีด" ใช่ไหมคะ จับจนกว่าจะสึก เพียงชั่วขณะที่จับครั้งแรกนี้ ไม่ปรากฏว่าด้ามมีดสึก ปีหนึ่งก็ยังไม่สึก จับทุกวันก็ยังไม่สึก แต่เวลาที่ด้ามมีดสึกแล้วทราบว่ามี เหตุ คือ การจับ ซึ่งทำให้ด้ามมีดสึก และ ด้ามมีด ไม่ใช่ขณะอื่น กำลังเห็นเดี๋ยวนี้ จับ หรือยัง สติ ระลึกศึกษา รู้ลักษณะ ของสิ่งกำลังที่ปรากฏหรือยัง ทางหู จมูก ลิ้น กาย ใจ ด้ามมีดทั้งหมดที่กำลังรอให้สติระลึก เพื่อที่จะรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า สภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน

มิฉะนั้นแล้ว บุรุษเปล่าทั้งหลายก็จะพูดว่า ธรรมะ ทั้งหลาย เป็นอนัตตา แต่ไม่ประจักษ์ ในความเป็นอนัตตาของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ"


ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศลแด่ คุณพ่อ คุณแม่และสรรพสัตว์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
suwit02
วันที่ 30 ก.ค. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 30 ก.ค. 2551

ขออนุโมทนาครับ จับด้ามมีด และอดทนที่จะฟังต่อไป บ่อยๆ เนืองๆ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 31 ก.ค. 2551

ขออนุโมทนาคุณพุทธรักษา ที่นำข้อความที่มีเนื้อหาสาระอย่างมากมาให้อ่านค่ะ จะได้ไม่เพียงอ่านและเพียงพูดว่า ธรรมะ ทั้งหลายเป็นอนัตตา เหมือนดั่งบุรุษเปล่า จึงควรค่อยๆ อบรมเจริญปัญญา คือเริ่มระลึกรู้ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกายและทางใจว่า เป็นเพียงสภาพธรรมที่ปรากฏแต่ละลักษณะเท่านั้น จนกว่าจะรู้ชัด ซึ่งมีประการเดียว คือ เริ่มระลึกเนืองๆ บ่อยๆ จนกว่าจะรู้ชัด จึงควรที่จะเริ่มจับด้ามมีดเดี๋ยวนี้ ขณะเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัส และขณะคิดนึก สติระลึกศึกษารู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏแต่ละอย่าง จนกว่าด้ามมีดจะสึก เพื่อที่จะรู้ชัดตามความเป็นจริงว่าสภาพธรรมที่กำลังปรากฏไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
prakaimuk.k
วันที่ 31 ก.ค. 2551

ขณะอ่าน ขณะฟัง ก็เพียรพิจารณาระลึกเลยในขณะนั้นๆ จึงเป็นบ่อยๆ เนืองๆ ...

ขออนุโมทนาคุณพุทธรักษาในการนำธรรมบรรยายของท่านอาจารย์ มาเตือนใจให้ระลึกบ่อยๆ เนืองๆ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของผู้ร่วมสนทนาทุกๆ ท่านด้วยค่ะ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Sam
วันที่ 31 ก.ค. 2551

ขออนุโมทนาคุณพุทธรักษา และทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ajarnkruo
วันที่ 31 ก.ค. 2551

... ด้ามมีด ... ไม่จับก็ไม่สึก ... จับครั้งแรกก็รู้ว่ายังไม่สึก จับไปอีกหลายๆ ครั้งก็รู้ว่า ... ต่างจากการจับครั้งแรก แต่ก็ยังไม่รู้ว่า ... ค่อยๆ สึกไปมากน้อยเท่าไร ต่อเมื่อสึกจริงๆ ... จึงจะรู้ว่าสึกแล้ว

...ขออนุโมทนาครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 31 ก.ค. 2551

อ่านแล้วครับ จะกลับไปสนทนาต่อครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pornpaon
วันที่ 31 ก.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Komsan
วันที่ 1 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
พุทธรักษา
วันที่ 1 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนา "คุณจำแนกไว้ดีจ๊ะ" ที่มีฉันทะในการศึกษาและสนทนาธรรม นะจ๊ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Pararawee
วันที่ 1 ส.ค. 2551

โดยมากผู้ศึกษาธรรมะจะใจร้อน อยากได้ผลเร็วๆ แต่ลืมเสมอๆ ว่า อวิชชาที่สะสมมาแสนนานมากเท่าไหร่ เคยฟังเรื่องของพระสูตร พระพุทธองค์ตรัสว่า น้ำตาที่เราเคยหลั่งมาในอดีตชาติยังมากกว่าน้ำในมหาสมุทรอีกค่ะ ซาบซึ้งที่สุดเลย

อนุโมทนาผู้มีกุศลจิตระลึกสภาพธรรมะตามความเป็นจริง

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
michii
วันที่ 1 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
petcharath
วันที่ 1 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
เซจาน้อย
วันที่ 1 ส.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
opanayigo
วันที่ 16 ส.ค. 2551

เนืองๆ ต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ

ขออนุโมทนานะคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
pornpaon
วันที่ 16 ส.ค. 2551

การฟังธรรม การศึกษาพระธรรม เป็นเรื่องบ่อยๆ เนืองๆ จริงๆ เพราะรีบร้อนอยากรู้ อยากเข้าใจไม่ได้เลย อยาก เมื่อไหร่ เป็นตัวตนทันที ปิดบังสภาพธรรมที่แท้จริงสนิท แต่ก็ เหตุปัจจัยมีให้เกิด อยาก จึงห้ามไม่ให้เกิดขึ้นไม่ได้ แต่เข้าใจได้ว่าเป็นสภาพธรรม

อยาก ... ย่อมเกิดขึ้น

อยาก ... ย่อมตั้งอยู่

อยาก ... ย่อมดับไป

แต่ความเป็นตัวตน จึงยังยินดี ยังคิดนึก ยังติดข้องใน อยาก ... นั้นต่อไป

ขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
pamali
วันที่ 20 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
mon-pat
วันที่ 12 พ.ค. 2555

เริ่มศึกษาความจริงของสิ่งที่ปรากฏ ก็รู้ว่ามี "เรา" หลงคิดอยู่กับบัญญัติมาทั้งชีวิต

กราบขอบพระคุณทีมงาน www.dhammahome.com

กราบแทบเท้าท่าน อาจารย์สุจินต์

ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ได้มีโอกาสฟังพระธรรมที่แท้จริง อันจะเป็นปัจจัยให้เกิด ปัญญาละกิเลสได้อย่างบริสุทธิ์ หมดจดงดงาม

สาธุ สาธุ สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
เข้าใจ
วันที่ 14 ก.พ. 2556

วันหนึ่งคงต้องได้รู้ว่า ทุกอย่างเป็น ธัมมะ เป็นธรรมะ

ขอบพระคุณ และกราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
peem
วันที่ 17 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ