ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะเข้าถึงสภาพธรรมที่เป็นอนัตตา


    ท่านอาจารย์    ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะเข้าถึงลักษณะของสภาพธรรมว่าเป็นอนัตตา  ต้องเป็นการ ประจักษ์แจ้งด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องตามลำดับ  และต้องเป็นการรู้ลักษณะของสภาพ ธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริง ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จึง จะดับความเห็นผิดที่ยึดถือสภาพธรรมว่า เป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตนได้

    เพราะฉะนั้นเวลาอ่านคำว่า “อนัตตา” และหาความหมายของคำว่า “อนัตตา”  รู้ ว่า  อนัตตา หมายถึง สภาพธรรมที่ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่วัตถุสิ่งหนึ่ง สิ่งใด อย่าคิดว่า เข้าใจแล้ว นั่นเป็นเพียงพูดตาม แต่ว่ายังไม่ได้เข้าใจจริงๆ  ตราบใดที่ ยังเห็นนาฬิกา ไม่ใช่เห็นนิมิต  เป็นแต่เพียงนิมิต เป็นแต่เพียงเครื่องหมายให้รู้ว่า มีธาตุ ดิน น้ำ ไฟ ลม อยู่ที่นี่

    ผู้ฟัง    ก็ระลึกได้ทั้ง ๒ อย่างนะครับ ระลึกเป็นนิมิตก็ได้ ระลึกเป็นรูปก็ได้

    ท่านอาจารย์ จนกว่าจะไม่ปรากฏว่า เป็นสัตว์  เป็นบุคคล  เป็นตัวตน  เป็นวัตถุสิ่งใด   สิ่งที่ ปรากฏทางตาเป็นแต่เพียงสภาพธรรมชนิดหนึ่ง  และยังรู้ด้วยว่า  สภาพธรรมชนิดนั้น เป็นเครื่องหมายของธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม  ไม่ใช่เป็นเครื่องหมายของคน หรือสัตว์  เพราะ เหตุว่าในขณะที่สติยังไม่ได้ระลึกรู้อย่างถูกต้อง  เห็นคน  เห็นสัตว์  เห็นวัตถุสิ่งต่างๆ ไม่ ใช่รู้ว่า เห็นนิมิต คือ เครื่องหมายของธาตุดิน น้ำ ไฟ ลมเท่านั้น  ยังเป็นเห็นคน  ใช่ไหม คะ

    เพราะฉะนั้นเห็นนิมิต  การที่จะรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง คือ เห็นนิมิต  ซึ่ง เป็นเครื่องหมายของธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม ด้วย ไม่ใช่เครื่องหมายของคนนี้หรือคนนั้น หรือ วัตถุสิ่งนั้นสิ่งนี้

    ผู้ฟัง    ผมฟังว่ายังมีความหมายอีกอย่างหนึ่งของคำว่า “อนัตตา” อีกความหมายหนึ่งก็ว่า บังคับบัญชาไม่ได้ ใช่ไหมครับ

    ท่านอาจารย์    ถูกต้องค่ะ ไม่มีใครจะเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมที่ปรากฏทางตาให้เป็นอย่างอื่นได้   นอกจากเป็นเพียงนิมิต เครื่องหมายองธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม เท่านั้น


    หมายเลข 7910
    17 ส.ค. 2558