ทบทวนปัจจัย - อธิปติปัจจัย


    ต่อไป  โดยอธิปติปัจจัย  อธิปติมี ๒ อย่าง   คือ สหชาตาธิปติปัจจัย ๑   อารัมมณาธิปติปัจจัย ๑  สหชาตาธิปติปัจจัย  หมายความถึงนามธรรม  ได้แก่ ฉันทะ ๑  หรือวิริยะ ๑  หรือจิตตะ ๑   หรือวิมังสา คือ ปัญญา ๑   เป็นสภาพธรรมที่เป็นใหญ่ในหมู่ของสหชาตธรรมซึ่งเกิดร่วมกัน   เพราะเหตุว่าเวลาที่จิตขณะเกิดขึ้น   ต้องประกอบด้วยสหชาตธรรม   คือ เจตสิกซึ่งเป็นนามธรรมเกิดร่วมด้วย  และในบรรดาสหชาตธรรมหรือสัมปยุตตธรรมซึ่งเกิดร่วมกันนั้น  สภาพธรรมใดเป็นใหญ่ในขณะนั้น   จะต้องเป็นสภาพธรรมหนึ่งสภาพธรรมใดใน ๔  คือ  เพราะฉันทะเป็นใหญ่  หรือว่าวิริยะเป็นใหญ่  หรือจิตเป็นใหญ่   หรือว่าวิมังสาคือปัญญาเป็นใหญ่

    แต่สำหรับโลภมูลจิต   ไม่มีปัญญาเจตสิกเกิดร่วมด้วย   เพราะฉะนั้นในขณะที่โลภมูลจิตเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง ๆ   แล้วแต่ว่าจะมีฉันทะเป็นอธิบดี   หรือว่ามีวิริยะเป็นอธิบดี   หรือมีจิตเป็นอธิบดี   แต่ว่าจะไม่มีวิมังสะคือปัญญา   เพราะเหตุว่าปัญญาเป็นโสภณธรรม 

    พอที่จะสังเกตได้ไหม  โลภะในวันหนึ่ง ๆ ซึ่งมีมากเหลือเกิน  ไม่มีใครจะกล่าวได้ว่าวันนี้ไม่มีโลภะ   แต่ว่าโลภะมากทั้งทางตา  ทางหู   ทางจมูก   ทางลิ้น   ทางกาย  ทางใจ  แต่ถ้าจะเริ่มพิจารณาลักษณะของโลภะที่เกิด  จะเป็นประโยชน์มาก   ที่จะสามารถรู้ได้ว่า  ในขณะที่โลภะนั้นกำลังเกิดขึ้นปรากฏ   มีฉันทะ  หรือวิริยะ  หรือจิตตะเป็นอธิบดี  ซึ่งคนอื่นไม่สามารถที่จะบอกได้เลย   นอกจากสติที่ระลึกสภาพของธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนั้น

    พอที่จะมีตัวอย่างไหมสำหรับท่านผู้ฟังเองว่า  ขณะไหนมีฉันทะเป็นอธิบดี  ขณะไหนมีวิริยะเป็นอธิบดี   หรือว่าขณะไหนมีจิตตะเป็นอธิบดี

    ถาม   ขณะที่ไตร่ตรองเหตุผลจากธรรมนี้  ก็เป็นมีจิตเป็นใหญ่ใช่ไหมครับ ?

    ท่านอาจารย์    ขณะนั้นไม่ใช่โลภมูลจิต

    ผู้ฟัง    ครับ   ไตร่ตรองเหตุผล   ตามที่ฟัง

    ท่านอาจารย์    ขณะนั้นต้องเป็นมหากุศล

    เคยจำเป็นจะต้องทำอะไรซึ่งไม่ค่อยชอบเลย   แต่ก็ทำบ้างไหม   ขณะนั้นอะไรเป็นอธิบดี   ฉันทะหรือเปล่า ?  ไม่ใช่แน่  อะไรเป็นอธิบดี ?  ถ้าต้องอาศัยความเพียร  วิริยะ  อย่างถ้ามีปมเชือก  อยากจะตัดหรือว่าอยากจะแก้ ?   ทำอะไรจะง่ายกว่ากัน  แต่ทีนี้ถ้าเกิดเพียรที่จะแก้   ขณะนั้นไม่ใช่มหากุศลแน่  ใช่ไหม ?  เพราะฉะนั้น  ในขณะที่กำลังพยายามที่จะแก้ปมนั้น   ก็เป็นโลภมูลจิตที่มีวิริยะเป็นอธิบดี  แต่ในขณะนี้กำลังกล่าวถึงโลภมูลจิตดวงที่ ๑  ทิฏฐิคตสัมปยุตต์  ไม่ใช่กล่าวถึงโลภมูลจิตทิฏฐิคตวิปยุตต์  ในขณะนั้นที่กำลังแก้ปมเชือกด้วยวิริยะ  ก็ควรที่จะเป็นโลภทิฏฐิคตวิปยุตต์มากกว่า

    แต่ถ้าเป็นการกระทำที่จะต้องทำ   เพราะมีทิฏฐิเกิดร่วมด้วย  มีความยากลำบากที่จะต้องทำตามความเห็นผิดนั้นๆ   ในขณะนั้นก็สามารถจะพิจาณาได้อีกว่า  เพราะฉันทะหรือเพราะวิริยะเป็นอธิบดี  นี่ก็ถ้าเป็นผู้ที่มีปกติอบรมเจริญสติปัฏฐานนี้  ย่อมสามารถที่จะระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่เกิดขึ้นปรากฏในวันหนึ่ง ๆ   ตามความเป็นจริงได้ 


    หมายเลข 6244
    29 ส.ค. 2558