ธรรมคือพระอภิธรรมเป็นเรื่องที่มีความละเอียด


    ผู้ฟัง เพราะฉะนั้น ทุกคนในห้องนี้ก็มีธรรมปรากฏกับตัวอยู่ตลอด

    ท่านอาจารย์ อีกคำหนึ่งก็คือ เป็นธรรมทั้งหมดไม่มีตัวอีกต่างหาก

    ผู้ฟัง แต่สภาพที่มีธรรมที่เกิดกับแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน

    ท่านอาจารย์ เห็นเหมือนกันไหมคะ

    ผู้ฟัง เห็นเหมือนกันค่ะ

    ท่านอาจารย์ เป็นประเภทหนึ่งของธรรม

    ผู้ฟัง แต่ขณะที่เกิดขึ้นของแต่ละคน บางคนอาจจะยังโกรธ หรือโลภ

    ท่านอาจารย์ แต่เห็นไม่ใช่โกรธ เพราะฉะนั้น แต่ละอย่างๆ เริ่มละเอียด นี่คือความหมายของคำว่า “อภิธรรม” นะคะ ธรรมที่ทรงแสดงไว้อย่างละเอียดยิ่ง

    ผู้ฟัง เป็นเรื่องละเอียดจริงๆ ที่แต่ละคนต้องมีธรรมปรากฏของแต่ละคน แล้วก็ไม่รู้กันว่าอะไรคือธรรมที่ปรากฏกับตัวเอง เช่นขณะนี้คนอื่นอาจจะร้อน อันนี้อาจจะเป็นส่วนที่จะต้องรู้ด้วยตัวเอง

    ท่านอาจารย์ อันนี้นะคะ ถ้าเข้าใจจริงๆ แล้วขณะนั้นเราไม่มี แต่มีลักษณะร้อนที่ปรากฏ กับสภาพที่รู้ร้อน เหมือนกับขณะนี้เราไม่มี แต่มีเสียงปรากฏกับสภาพที่ได้ยินเสียง คนก็ไม่มี แต่มีสภาพที่กำลังปรากฏทางตากับจิตเห็น หรือว่าสภาพที่สามารถเห็นว่าสิ่งที่ปรากฏทางตาเป็นอย่างนี้

    อ.ธิดารัตน์ ความยึดถือว่าเป็นตัวเรา ตรงนี้ก็มีจริง

    ท่านอาจารย์ แน่นอน เป็นอกุศล ต่อไปจะทราบว่าสิ่งใดที่มีมีแน่นอน ความเห็นผิดที่ยึดถือว่าสภาพธรรมว่าเป็นเรานี่มี ก็ต้องยอมรับว่ามี แล้วก็เป็นธรรมด้วย แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นธรรมประเภทไหน เพราะว่าวันนี้เราเพียงแต่ว่าให้เข้าใจว่าทุกอย่างที่มีจริงๆ เป็นธรรมซึ่งใครไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงลักษณะได้เลย โดยชื่อใช้คำว่า “ปรมัตถธรรม” และก็จะได้ยินคำว่า “อภิธรรม” ด้วย หมายความถึงเป็นธรรมที่ละเอียดยิ่งที่แสดงไว้โดยละเอียดโดยประการทั้งปวงที่จะให้เห็นถึงความจริงของสภาพธรรมนั้นๆ

    ผู้ฟัง คำว่า “อภิธรรม” อยู่ในตัวเรา ทั้งกายที่เป็นรูป ที่เป็นส่วนที่เป็นกาย และก็ใจก็คืออภิธรรม ถึงตอนนั้นก็ยังมีผู้ปฏิเสธคำว่าอภิธรรม

    ท่านอาจารย์ ถ้าเข้าใจธรรมผู้นั้นจะปฏิเสธไม่ได้เลย เพราะไม่เข้าใจธรรมจึงปฏิเสธว่าไม่มีอภิธรรม แต่ถ้าเข้าใจธรรมแล้ว ธรรมเป็นอภิธรรม มีความละเอียดมากมายที่ผู้ตรัสรู้ทรงแสดงความละเอียดของสภาพธรรมนั้นๆ ที่มีปัจจัยปรุงแต่งเกิดขึ้น แต่ไม่ปรากฏลักษณะที่แท้จริงกับผู้ไม่รู้ จึงกล่าวว่าไม่มีอภิธรรม

    ผู้ฟัง เพราะฉะนั้น พื้นฐานที่เราควรจะทราบควรจะเป็นอย่างไร

    ท่านอาจารย์ ก็คือขณะนี้ให้ทราบว่าสิ่งที่มี มีจริงๆ จะใช้คำอะไร หรือไม่ใช้คำอะไร สิ่งที่มีก็ปฏิเสธไม่ได้ และสิ่งที่มีนั้นใครรู้ และใครไม่รู้ ถ้าคนไม่รู้ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำไป ก็มีความทรงจำสืบต่อว่าเป็นเรา ธรรมก็ไม่รู้จักว่าอยู่ที่ไหน แต่ว่าผู้ที่รู้ตามความเป็นจริงก็สามารถประจักษ์แจ้งในความเป็นธรรมแต่ละลักษณะที่มีจริงๆ

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 2


    หมายเลข 4902
    28 ธ.ค. 2566