อวิชชาบางลงด้วยความรู้อย่างเดียว ไม่ใช่ด้วยการทำอย่างอื่น


        ด้วยเหตุนี้เมื่อฟังแล้วมีความเข้าใจที่ถูกต้องก็จะเป็นผู้ที่ตรงต่อพระธรรม แล้วก็ประพฤติปฏิบัติตามโดยเป็นผู้ที่อดทน ขันติเป็นตบะอย่างยิ่ง ตราบใดที่ยังไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรม เพียงแต่เข้าใจเรื่องราวของสภาพธรรมไม่พอ ไม่สมอย่างที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีเพื่อให้ผู้อื่นได้ประจักษ์จริงๆ แทงตลอดสภาพธรรมได้จริงๆ แต่ต้องเป็นผู้ที่มีความมั่นคงอย่างยิ่งที่จะรู้ว่าเมื่อขณะที่กำลังไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจ จะไปฝืนให้เด็กเล็กๆ ไปทำการผ่าตัดที่ไหนก็คงจะไม่ได้ เพิ่งแรกเกิดแล้วก็จะให้ไปทำกิจที่จะทำอย่างผู้ที่ได้สะสมปัญญามามากที่จะแทงตลอดลักษณะของสภาพธรรมได้ เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นธรรมเป็นสัจจธรรม เป็นสิ่งที่มีจริง ทุกคนสามารถที่จะรู้จักตัวเองตามความเป็นจริงโดยไม่หลอกแต่อาศัยพระธรรมที่จะนำทางไปสู่ความเห็นที่ถูกต้องที่จะไม่หันเหไปสู่ความเห็นผิดด้วยโลภะ เพราะเหตุว่ากว่าโลภะจะให้ใครได้มาฟังพระธรรม ลองคิดดู ตั้งแต่เช้ามาก็มีผู้ที่มีศรัทธาฟังธรรมทางวิทยุ นั่นก็คือว่าเป็นโอกาสของการสะสมมาในชาติปางก่อน อีกไม่นานก็ถึงชาติหน้า ทีละปีๆ ไป

        เพราะฉะนั้นขณะนี้เป็นชาติปางก่อนที่กำลังสะสมที่ชาติหน้าจะเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นก็ไม่ใช่ว่าเราจะไปคำนึงถึงเพียงชาติปางก่อนซึ่งเราไม่สามารถที่จะรู้ได้ แต่ชาตินี้เองเป็นชาติปางก่อนที่ใครจะสะสมกุศลมากเท่าไหร่ มีปัญญาที่จะรู้ความจริงของสภาพธรรม เห็นประโยชน์ของกุศลที่ค่อยๆ สะสมไป เพราะเหตุว่าถ้าไม่มีกุศลที่สะสมขัดเกลาอกุศลไปทีละเล็กทีละน้อยที่จะให้ปัญญาสามารถที่จะละคลายกิเลสประจักษ์แจ้งสภาพธรรมตามความเป็นจริงให้ได้ เพราะต้องรู้ว่าอกุศลมีเมื่ออวิชชายังมี เพราะฉะนั้นการที่จะกิเลสน้อยลงหรือว่าสามารถจะรู้ความจริงของสภาพธรรมได้ก็ต่อเมื่ออวิชชาบางลงจางลงด้วยความรู้อย่างเดียว ไม่ใช่ไปด้วยการทำอย่างอื่น

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 231


    หมายเลข 11423
    23 ม.ค. 2567