ความเข้าใจอย่างละเอียดจะละการยึดถือและความสงสัยสภาพธรรม


        สุ. คำถามที่มักจะมีบ่อยๆ ก็คือว่าเมื่อไหร่จะหมดโลภะ โทสะ หรือว่าเมื่อไหร่จะหมดความเป็นตัวตน จะหมดได้ยังไงในเมื่อยังถามอย่างนี้ แสดงว่ามีความเป็นตัวตนมากมายเพราะว่าขณะนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นโลภะด้วยที่มีความต้องการ แต่ไม่ใช่เป็นการเห็นถูก การเข้าใจถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏ ด้วยเหตุนี้การฟังธรรมแม้ในขณะนี้ ถ้าพูดเรื่องจิตไม่ใช่ผ่านไปเลย แม้แต่จิตเป็นธาตุรู้ที่กำลังเห็นแค่นี้ ก็จะต้องไตร่ตรองเป็นสิ่งที่มีจริง แต่ว่าไตร่ตรองขั้นคิดไม่เหมือนกับขั้นที่กำลังเข้าใจถูกในลักษณะของสภาพรู้ที่กำลังเห็น เพราะฉะนั้นความเข้าใจจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างละเอียด และก็จะละการยึดถือสภาพธรรมอย่างละเอียด และก็ละความสงสัยคือความไม่รู้ในลักษณะของสภาพธรรมอย่างละเอียด เพราะฉะนั้นชาติหนึ่งถ้าหวังอื่นก็คือโลภะ แต่ถ้าฟังธรรมเพื่อเข้าใจถูก เห็นถูกในสิ่งที่มีจริงๆ ขณะนั้นกันโลภะ หมายความว่าโลภะไม่สามารถจะทำให้ไปอยากได้อย่างอื่นเลย แต่จะเป็นผู้ตรงว่าขณะนี้สภาพธรรมกำลังปรากฏ และก็มีความเข้าใจลักษณะของสิ่งที่ปรากฏขั้นไหน ทั้งๆ ที่มีสิ่งที่ปรากฏคือจิต แต่กำลังฟังเรื่องจิต แต่ยังไม่รู้ลักษณะของจิตจริงๆ ด้วยเหตุนี้การฟังก็ต้องเป็นผู้ตรงที่จะรู้ความจริงว่าอกุศลมาก อวิชชามาก ขณะนี้ค่อยๆ เข้าใจขึ้น และก็จะมีความอดทนที่จะสะสมความรู้ความเข้าใจถูกเพื่อละโลภะ ละการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 222


    หมายเลข 11044
    24 ม.ค. 2567