เก่งลวงล่อ


    โลภะเป็นสภาพติดข้อง ลวงล่อ เกิดขึ้นอย่างมากมายในชีวิตประจำวัน แต่เห็น ได้ยากยิ่ง ปัญญาเท่านั้นที่จะสามารถรู้ และละโลภะได้ตามความเป็นจริง


    ลองคิดถึงคนเก่ง เก่งมาก เก่งมานานแล้วด้วย แล้วทุกวันก็เก่ง แล้วก็เก่งต่อไป เก่งที่จะทำให้ติดข้อง โดยไม่รู้ คิดดู คนนี้เก่งระดับไหน ถ้าตัวตนปรากฏชัดเจนยังพอว่า เก่งยิ่งกว่านั้นอีก ไม่ให้รู้ด้วย ทั้งลวงทั้งล่อสารพัด เพราะเขามีมานานแสนนาน แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะทรงระลึกชาติไม่สิ้นสุด แสดงว่าอวิชชา และโลภะมากมาย มหาศาลแค่ไหน ถ้าไม่มีความเข้าใจจริงๆ ว่าเริ่มด้วยกันละ ในชีวิตปกติธรรมดา ค่อยๆ เข้าใจ ก็คือปัญญา ขณะนี้ไม่มีเรา ฟังตำรามาก็เยอะ จิตตั้งกี่ดวง เจตสิกเท่าไร เกิดกับจิตทีละหนึ่งขณะ มากน้อยต่างกัน ดับไปแล้วไม่เหลือเลย รู้หรือไม่ กำลังเป็นเราฟัง

    เพราะฉะนั้นเมื่อไรที่สภาพของธรรมปรากฏ ซึ่งไม่ใช่เรา เมื่อนั้นก็จะปรากฏธาตุ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราได้ฟังมาแล้วนาน จนกระทั่งสามารถที่จะเห็นจริงๆ ว่า นั่นเป็นเราไปไม่ได้เลย แต่เวลานี้ แม้ว่าเรากำลังฟังอยู่ แต่คนเก่งเขามี จะไม่รู้เลย เก่งจริงๆ เพราะฉะนั้นเวลาที่เกิดสงสัย ถาม ผู้ตอบจะอนุเคราะห์อย่างไร จะพาเขาห่างไกลจากการที่จะเข้าใจเรื่องละสิ่งที่กำลังปรากฏ หรือจะให้เขารู้ว่า ยังไม่ถึงเวลา ยังไม่พร้อมที่จะรู้อย่างนั้น ถ้ายังไม่เริ่มให้ถูกต้องจริงๆ ไม่ทันโลภะสักอย่าง เป็นอย่างนี้ไปอีก ในสังสารวัฏฏ์

    ด้วยเหตุนี้ ในเถรสูตร จึงมีข้อความว่า ผู้ที่เข้าใจธรรมทรงพระไตรปิฏกแสดงธรรมทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เห็นผิด ไม่เป็นประโยชน์ แล้วลองคิดดู ถ้าเรามีตำราอภิธัมมัตถสังคหะ หรือว่าพระไตรปิฏก พระอภิธรรมปิฏก ๗ คัมภีร์ พระสูตรอีก แต่เราเรียนด้วยความเป็นเรา ไม่ได้รู้เลยว่าแต่ละคำ นำไปสู่ไม่ใช่เรา พอได้ยินคำว่าโลภะ ความติดข้องนำไปสู่การที่เป็นธาตุ หรือเป็นธรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งฉลาดแล้วก็เก่ง แล้วก็ลวง แล้วก็ล่อ ไม่พบอยู่ด้วยกันทั้งวัน ไม่เห็น ใครเห็นบ้างตอนตื่น จนกระทั่งถึงตอนหลับ อยู่ตลอดวันก็ไม่เห็น

    เพราะฉะนั้นการที่ได้ฟังคำที่ลึกซึ้งอย่างนี้ ต้องกว่าคำนั้นจะนำมาสู่ การที่รู้จุดประสงค์จริงๆ ว่าเราไม่รู้ และอีกไกล และต้องเป็นความเข้าใจจริงๆ ไม่ใช่เรา ขณะนี้จิต เจตสิก เกิดดับทำกิจการงานไม่รู้เลย เวลามีความเข้าใจเกิดขึ้น ขณะนั้นสภาพของความเข้าใจ โดยความที่เป็นธรรม หรือเป็นธาตุก็ไม่ได้ปรากฏ แต่เราเข้าใจ เพราะฉะนั้นเรื่องธรรม เป็นเรื่องที่ละเอียดยิ่ง ฟังเพื่อเข้าใจ ตั้งต้นให้ถูกในชาตินี้ เพื่อว่าต่อๆ ไปทุกชาติ เราจะได้ไม่เป็นผู้ที่มีธรรม มีชื่อ มีอะไรต่างๆ สอนได้ พูดได้ แต่ว่าเห็นผิด อย่างที่เราได้ขอขมาพระรัตนตรัย ใช่หรือไม่ โทษอย่างใหญ่ที่สุดก็คิดว่า ขออย่าได้มีความเห็นผิด


    หมายเลข 10953
    8 เม.ย. 2567