ถ้าขั้นการฟังเข้าใจผิดจะไม่สามารถรู้ความจริงได้เลย


        สุ. สภาพที่ไม่สามารถจะรู้อะไรเลยทั้งสิ้น สภาพธรรมนั้นเป็นรูปธรรม จะมองเห็นหรือมองไม่เห็นก็ตามแต่ สภาพแท้จริงของรูปเป็นรูปเพราะเหตุว่าไม่สามารถจะรู้อะไรได้ แต่ว่ารูปก็เป็นสิ่งที่มีจริง เป็นธรรม หรือจะกล่าวว่าเป็นธาตุชนิดหนึ่งก็ได้ แต่ว่าธาตุในโลกนี้ที่มีจริง ไม่ใช่มีแต่เฉพาะรูปธาตุ ยังมีธาตุอีกชนิดหนึ่งซึ่งเมื่อเกิดขึ้นต้องรู้ นี่คือความต่างกันของรูปธรรมกับนามธรรม หรือนามธาตุกับรูปธาตุนั่นเอง เป็นของใครหรือเปล่า ธาตุทั้งสองนี้ ไม่เป็น นี่คือความที่ค่อยๆ เข้าใจถูกขึ้น แต่ก่อนนั้นยึดถือสิ่งที่ปรากฏว่าเป็นเรา เป็นเขา เป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ โดยที่ไม่รู้ว่าความจริงแล้วก็เป็นลักษณะของธรรมแต่ละลักษณะนั่นเอง ด้วยเหตุนี้เวลาศึกษาธรรม ไม่ได้มีเรื่องราวอะไรที่เคยคิดนึกว่าเป็นคนนั้นคนนี้ แต่กำลังเข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ที่กำลังปรากฏให้ถูกต้องเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อยแม้ในขั้นของการฟัง เพราะเหตุว่าถ้าขั้นการฟังเข้าใจผิดจะไม่สามารถรู้ความจริงของลักษณะของสภาพธรรมได้เลย เพราะฉะนั้นในขั้นการฟังเป็นความเห็นถูกขั้นฟัง และเมื่อเป็นการเห็นถูกในสภาพธรรมที่มีจริง ย่อมรู้ว่าสามารถจะรู้ความจริงของสภาพธรรมนั้นได้ มีหนทางที่สามารถจะรู้ได้จริงๆ ถ้ากล่าวถึงโลภะ (ความติดข้อง) มากมายมหาศาลรวมทั้งอวิชชาด้วย ถูกต้องไหม แต่จากความรู้นี้แหละจะทำให้สามารถดับทั้งอวิชชา และโลภะไม่เกิดอีกเลยได้ นี่คืออนุภาพหรือการที่ธรรมที่เป็นความเข้าใจถูก ความเห็นถูก จะค่อยๆ เจริญขึ้นจนกระทั่งสามารถที่จะเห็นถูกต้องตามความเป็นจริงว่าเป็นธรรม ไม่มีสภาพธรรมเหล่านี้เกิดอีกเลยได้ นี่ก็คือกำลังฟังธรรม และก็ให้รู้ความต่างกันของโลภะกับปัญญา สภาพหนึ่งติดข้องต้องการ อีกสภาพหนึ่งละคลายความติดข้องความต้องการ เพราะมีความเห็นถูก ความเข้าใจถูกในสิ่งนั้น ด้วยเหตุนี้ต่อไปนี้เมื่อพูดถึงนามธรรมกับรูปธรรม ใครจะใช้ความหมายภาษาไทยที่ใช้คำว่าสิ่งที่กำลังคิดจะทำขณะนี้ยังไม่เป็นรูปธรรมก็พูดไป แต่ไม่ใช่ความหมายของลักษณะสภาพธรรมที่รูปธรรมหมายความถึงสภาพธรรมที่มีจริงเกิดขึ้นแต่ไม่ใช่สภาพรู้ จะมองเห็นหรือมองไม่เห็นก็ตามแต่ สิ่งนั้นเป็นรูปธรรม เช่นเสียง ไม่มีใครมองเห็นเลยแต่เสียงมี เสียงปรากฏกับนามธาตุที่เป็นสภาพรู้คือกำลังได้ยินเสียง ไม่ใช่คน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่ใครเลย แต่เป็นธรรมที่เป็นนามธรรม และรูปธรรม ถ้าอย่างนี้จะสงสัยไหม กลิ่นเป็นรูปธรรมหรือนามธรรม

        ผู้ฟัง กลิ่นเป็นรูปธรรม

        สุ. ปรากฏกับอะไร

        ผู้ฟัง ปรากฏกับรู้กลิ่น นามธรรม

        สุ. นามธรรมซึ่งเป็นสภาพรู้ ซึ่งได้แก่จิต และเจตสิก แต่ว่าจิตเป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งลักษณะของสิ่งที่กำลังรู้คืออารมณ์ๆ หมายความถึงสิ่งที่จิตกำลังรู้

        ผู้ฟัง อย่างนั้นรูปขันธ์ก็คือทั้งหมดเลย

        สุ. แน่นอน ไม่เว้นเลย รูปทุกรูปเป็นรูปขันธ์ แต่ว่าพระธรรมกว้างขวางละเอียดมาก ต่อไปก็จะพบคำว่าปิยรูป สาตรูป เพิ่มขึ้นมาอีกซึ่งไม่ได้หมายเฉพาะรูปเท่านั้น

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 211


    หมายเลข 10782
    25 ม.ค. 2567