สติเป็นเครื่องกั้นกระแส


        วิ. พระผู้มีพระภาคตรัสกับอชิตมานพ “กระแสเหล่าใดในโลก” ถ้าในอรรถกถาก็กล่าวถึงกระแสตัณหาบ้าง กระแสทิฏฐิบ้าง กระแสทุจริตบ้าง กระแสอวิชชาบ้าง พระผู้มีพระภาคก็ตรัสว่าสติเป็นเครื่องกั้นกระแสเหล่านั้น และปัญญาเป็นเครื่องปิดกั้นหรือตัดกระแสเหล่านั้น หมายความว่าอย่างไรครับ

        สุ. ขณะใดที่สติเกิด ขณะนั้นอวิชชาเกิดไม่ได้ อกุศลเจตสิกจะไม่เกิดพร้อมกับโสภณเจตสิก เพราะฉะนั้นขณะใดที่สติเกิด ขณะนั้นเป็นกุศล แต่ก็มีกุศลหลายระดับ กุศลที่มีปัญญาเกิดร่วมด้วย และกุศลที่ไม่มีปัญญาเกิดร่วมด้วย

        วิ. ก็น่าสังเกตว่าโสภณธรรมมีมาก ทำไมมุ่งถึงตัวสติ

        สุ. จริงๆ ต้องทราบลักษณะของโสภณธรรมแต่ละประเภทว่าเป็นแต่ละลักษณะจริงๆ ในพระไตรปิฎกมีข้อความที่กล่าวถึงเรื่องปัฏฐานว่า สติปัฏฐาน และก็มีข้อความกล่าวว่าไม่ใช่ผัสสปัฏฐาน ไม่ใช่สัญญาปัฏฐาน ไม่ใช่เวทนาปัฏฐาน ไม่ใช่ปัฏฐานที่ตั้งของเจตสิกอื่น นอกจากที่ตั้งของสติเพราะว่าสติเป็นสภาพที่ระลึก ขณะที่คิดจะให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเพื่อประโยชน์สุขแก่บุคคลอื่น ไม่ใช่เรา แต่แทนที่จะคิดเรื่องอื่นตรึกตรองใฝ่หาเรื่องอื่นก็เกิดการระลึกที่จะให้ เพราะฉะนั้นขณะนั้นจึงสามารถที่จะรู้ได้ว่าเพราะสติเกิดจึงกั้นอกุศลๆ ขณะนั้นจะเกิดไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นกุศลทุกประเภทก็มีสติเป็นสภาพที่ระลึกเป็นไปในกุศลนั้นๆ เช่น ขณะที่วิรัติทุจริต แต่ก่อนนี้ก็อาจจะเป็นคนที่กล่าวคำไม่จริงง่ายๆ รู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าฟังธรรมแล้ว ไม่ใช่ไปมีตัวตนที่จะไปบังคับ แต่เริ่มสังเกตได้ว่าการกล่าวคำจริงง่ายกว่าที่จะกล่าวคำไม่จริงเพราะว่าตรงไปตรงมา ไม่เยิ่นเย้อ และก็ชัดเจน และก็มีอะไรก็เปิดเผยได้ นั่นก็คือผู้ที่เห็นว่าสิ่งที่ไม่จริงหรือคำไม่จริงกล่าวยากว่าความจริง อันนี้ก็เป็นเพราะเหตุว่าได้เริ่มเข้าใจสภาพธรรมซึ่งขณะนั้นเพราะสติเกิดจึงระลึกที่จะวิรัติทุจริต หรือว่าจะทำสิ่งที่ดีงามเป็นจารึกศีล ถ้าเป็นการวิรัติสิ่งที่ไม่ดีก็เป็นวาริกศีลเพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกาย วาจา ซึ่งก็ต้องมาจากใจแต่ก็ละเอียดขึ้น ระดับที่ว่าแม้เป็นการที่เกิดขึ้นเป็นกุศลทางใจ ยังไม่ได้ล่วงออกไปทางกาย ทางวาจา ไม่ว่ากุศลหรืออกุศลนั้นก็ไม่มีใครสามารถที่จะรู้ได้ แล้วอย่างเวลาที่เกิดขุ่นใจ กายก็ยังไม่ได้ทำอะไร วาจาก็ยังไม่ได้ทำอะไร ก็เกิดอกุศลเพราะเหตุว่ามีปัจจัยที่จะขุ่นใจขณะนั้น แต่พอสติเกิดระลึกได้ก็ไม่ใช่เราอีก มีประโยชน์อะไร ความโกรธ ลองหาสิว่าประโยชน์อยู่ที่ไหน แก่ใคร แก่คนที่เราแสดงความโกรธ เขาจะได้กลัวหรือเปล่า นั่นก็คือไม่ได้เห็นประโยชน์แท้จริงว่าขณะนั้นเป็นอกุศลจิต แล้วก็จิตของใครก็จิตของคนนั้น แล้วจิตนั้นให้โทษหรือให้คุณ

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 209


    หมายเลข 10723
    25 ม.ค. 2567