แต่ละคนก็เป็นแต่ละหนึ่ง -พฐ.206


        สุ. ก็มีผ้าสกปรกผืนดำใหญ่อยู่ผืนหนึ่งแล้วทำยังไงถึงจะค่อยๆ จางลงไป ครั้งเดียวที่ซักคงไม่ได้ จางลงไป ยังตรงโน้นหนา ตรงนี้บาง จุดเล็กจุดน้อย กว่าจะหมดความสกปรกนั้นได้ นี่ก็แสดงให้เห็นว่าอวิชชาจะมากยิ่งกว่าสิ่งที่เราเคยคิดเคยเข้าใจไหมว่าจะนึกถึงผ้าผืนใหญ่สักแค่ไหนกับอวิชชาจริงๆ ก็เทียบกันไม่ได้ จะเห็นความเป็นเราเพิ่มขึ้น เริ่มรู้การยึดถือสภาพธรรม

        ผู้ถาม ขณะที่จักขุปสาทกระทบกับรูป จักขุวิญญาณจะไม่เกิดได้ไหม

        สุ. แล้วจะไปรู้ทำไม จะไปรู้ทำไม นี่คือความคิดซึ่งคิดสิ่งที่เป็นประโยชน์หรือเปล่า สิ่งใดรู้ได้ สิ่งใดรู้ไม่ได้ ถ้าขณะนี้สามารถที่จะรู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ เช่น รูปารมณ์ ใช้คำว่า “รูปารมณ์” สิ่งที่กำลังปรากฏทางตา แล้วค่อยไปคิดอื่น จริงๆ แล้ว ถ้ารู้จริงๆ จะไม่คิดอื่นเลยเพราะคลายความเป็นเราที่จะคิดอะไรก็ไม่รู้ แล้วเราสามารถที่จะเข้าใจได้หรือเปล่า จะรู้ได้หรือเปล่า กับสิ่งที่ปรากฏแล้ว ลักษณะของสติต่างกับหลงลืมสติยังไง พิจารณาไปจนกว่าจะมีความเข้าใจ และขณะใดที่สติสัมปชัญญะเกิดก็หมดความสงสัยเลยว่าปกติธรรมดา ส่วนการที่อะไรจะปรากฏกับใคร คนอื่นไม่สามารถที่จะรู้ได้เลย เป็นปัตจัตตัง สภาพธรรมใดเกิดกับพระมหากัสสัปปะ สภาพธรรมใดเกิดกับท่านพระสารีบุตร ท่านพระภาคียะขณะที่กำลังรู้แจ้งอริยสัจธรรมหรือแม้ก่อนนั้น ใครรู้ได้ เพราะฉะนั้นแต่ละคนก็เป็นแต่ละหนึ่งจริงๆ ไม่มีการที่จะเหมือนกันได้เลยแม้แต่ความคิดในขณะนี้ เสมือนว่าคิดคล้ายๆ กัน แต่ความต่างของแสนโกฏิกัปป์ที่คิดสะสมมา ความละเอียด โดยที่เราก็ไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่าขณะต่อไปจะคิดอะไร จะเห็นอะไรก็ยังไม่รู้ จะได้ยินอะไรก็ยังไม่รู้ เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องที่สิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้เข้าใจหรือยัง ถ้ายังไม่เข้าใจ แล้วตายไปๆ นั่งคิดว่าแล้วอย่างนั้นจะรู้ได้ไหม อย่างนี้จะรู้ได้ไหม จะมีประโยชน์ไหม ก็เป็นแต่เพียงความสงสัย เพราะฉะนั้นการศึกษาธรรมจะละความสงสัยในสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง เมื่อเข้าใจลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ แล้วก็จะรู้ด้วยว่าปัญญาของแต่ละคนก็จะต่างกันไป ไม่อย่างนั้นไม่มีท่านพระสารีบุตร ไม่มีท่านพระมหาโมคัลลานะ ไม่มีท่านพระมหากัสสปะ

        ผู้ถาม จะมีหลักเกณฑ์อะไรไหมที่จะเป็นเครื่องชี้ว่าถึงขนาดนี้แล้วก็หยุดได้แล้ว คุยต่อไม่ได้แน่นอนเพราะมันจะไม่ก่อนให้เกิดปัญญา

        สุ. พูดเรื่องที่สามารถจะเข้าใจได้ หรือว่าพูดเรื่องไม่สามารถที่จะเข้าใจได้ ถ้าพูดถึงเรื่องที่ไม่สามารถจะเข้าใจได้ ประโยชน์คืออะไร แต่ถ้าพูดถึงเรื่องที่สามารถเข้าใจได้สิ่งที่กำลังปรากฏ ถ้าฟังแล้วค่อยๆ พิจารณา รู้ว่าจริงนั่นคือปัญญา แล้วก็จริงซึ่งยังไม่ได้ประจักษ์กับจริงที่ประจักษ์ได้ด้วย ก็แสดงให้เห็นว่าจะต้องฟังต่อไป เข้าใจต่อไป อบรมต่อไปในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ไม่อย่างนั้นวันนี้คุยกันเรื่องที่รู้ไม่ได้ทั้งนั้นเลย

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 206


    หมายเลข 10682
    25 ม.ค. 2567